งานยากและยากขึ้นจะกลายเป็นเรื่องปกติ ส่วนงานง่าย ๆ ก็น่าจะถูกมองข้ามไป หรือยอมให้พังไปก็ได้ไม่เป็นไร เพราะผลกระทบมันไม่ได้เยอะอะไรเมื่อเทียบกับที่ต้องมีคนไปทำ หรือมีคนไปติดตามว่าทำสำเร็จมั้ย เพราะฉนั้นก็ไม่แปลกถ้าเราจะเหนื่อยขึ้นกว่าเดิม
"ความไม่แน่นอน" คือเรื่องจริงเรื่องนึงในชีวิต แต่ก็นั้นแหละครับ เวลาที่เราเจอความไม่แน่นอน ไม่แปลกที่เราจะหัวเสีย ผมเองก็เป็นบ่อย ๆ คงไม่มีใครแฮปปี้กับความไม่แน่นอนหรอกมั้ง เอ๊ะ หรืออาจจะมี
มีไม่มีไม่ใช่ประเด็น ที่เป็นประเด็นคือ เมื่อเจอความไม่แน่นอนเกิดขึ้นแล้วเราจัดการมันยังไง อย่างแรกที่ต้องทำคือ หัวเสียซะให้เสร็จก่อน แล้วก็ตั้งสติซะ มี 2-3 เรื่องที่เราต้องทำเวลาที่เจอกับความไม่แน่นอน
ข้อแรก มองให้ออกว่าข้อดีข้อเสียของความไม่แน่นอนนั้นไปตกที่ตกไหนบ้าง ข้อดีที่เราจะได้จากสถานการณ์นั้น ข้อเสียที่เราจะเจอจากสถานการณ์นั้น แล้วมองไปที่คนอื่น ๆ ด้วย ใครจะได้เปรียบเสียเปรียบจากเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นบ้าง
ข้อสอง วิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ให้ออก คิดให้ได้ว่าเดี่ยวอะไรจะเกิดขึ้นก่อน แล้วอะไรจะตามมา ฝึกคิดและเรียงลำดับให้เป็น เพื่อที่เราเองจะได้ไปอยู่ได้ถูกที่ถูกทาง อย่างน้อยคือเสียเปรียบให้น้อยที่สุด อย่าทำตัวบังเอิญเหมือนในละคร ที่ความบังเอิญพาเราซวยซ้ำซวยซ้อน เพราะฉนั้น มองให้ออกและคิดให้เป็นระบบ
ข้อสาม ประเมินตัวเองหน่อย ข้อนี้ต้องบอกว่าบุญเก่าเรามีแค่ไหน ผลงานย้อนหลังเราน่าประทับใจหรือเปล่า แถวหน้า หรือกลาง ๆ หรือห้อยท้ายตาราง ไม่ได้หมายความว่าห้อยท้ายหรือแถวหน้าจะได้เปรียบเสียเปรียบเสมอไป แค่ประเมินให้รู้สถานะเราไว้ให้เรา Active อยู่ตลอด เพราะสิ่งที่สำคัญกว่าคือ เรารู้มั้ยว่าความไม่แน่นอนที่เกิดขึั้นตอนนี้ ต้องการคนเก่งแบบไหน เรามีความเก่งนั้นอยู่หรือเปล่า ซึ่งก็แปลว่า ถึงเราจะห้อยท้ายตารางเดิมแต่เราเก่งเรื่องนี้อยู่นี่หว่า
เสนอตัวออกมาให้โลกรู้ซะ อย่านิ่งเงียบอยู่ท้ายตารางเฉย ๆ
ที่เขียนมานี่เหมือนง่ายนะ แต่ทำจริง ๆ ไม่ได้ง่ายหรอก ผมเจอความไม่แน่นอนแบบนี้มาหลายครั้ง ก็มีทั้งที่เอาตัวรอดได้ ทั้งที่แป้ก ผสม ๆ กันไป แต่อย่างน้อย ๆ เราก็ไม่ได้แป้กไปซะทุกรอบ
อย่างที่เรารู้กันดีว่าตอนนี้เรายังอยู่ในสถานการณ์ที่ยังงง ๆ งานที่เราเจอและเราต้องทำมันก็อาจจะยากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วก็นะ ยิ่งเก่งแค่ไหนเราก็จะยิ่งได้งานที่ยากมากขึ้นเท่านั้น ทีนี้ก็อยู่ที่ทัศนคติของเราด้วยเหมือนกันว่าเรามองความยากนั้นเป็นอะไร
จะมองว่า เฮ้ย ทำไมคนอื่นได้แต่งานง่าย ๆ มันก็มองได้ แต่เราก็อาจจะต้องรู้ผลที่เกิดขึ้นจากการมองและแสดงออกแบบนั้น เมื่อไปเทียบกับอีกคนที่มองว่าความยากคือความท้าทาย โยนมาเลยพี่ ผมพร้อมจะฟาดเต็มที่แล้ว
ส่วนบริษัท ผู้บริหาร และ HR สิ่งที่ต้องมี ต้องคิดและต้องทำให้วันที่งานยากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างแรกคือความจริงใจ ไม่เอารัดเอาเปรียบกัน สร้างแรงจูงใจที่ดีให้กับพนักงาน แล้วก็แบ่งสันปันส่วนของภาระงาน ความยากเหล่านั้นให้เหมาะสมด้วย
เตือนไว้ก่อนนะ คนเก่ง ๆ หลายคนท้อจนกลายเป็นคนไม่เก่งมาก็มาก เพราะโดนอัดงานยาก ๆ จนล้นมือ บริษัทจะเอาเปรียบเกินไปโดยไม่ยอมเสี่ยง ยอมพลาดในงานอะไรเลย คือ ไม่ยอมเอางานยากไปให้คนอื่นทำ แต่ก็ไม่ยอมจ้างคนเก่งมาเพิ่ม เพราะกลัวว่าต้องเสียเงินเพิ่มเข้าไปอีก
ยิ่งทำอย่างนี้ บริษัทจะเสี่ยงมากกว่าเดิมซะอีกนะ
#HRTheNextGen
#มนุษย์เงินเดือน #HR2021